เกวียนไทย
เกวียนไทย
     เกวียน นับว่าเป็นรถชนิดแรกที่มีในเมืองไทย มีสองล้อใช้ควายหรือวัวเทียมลากจูง ความเร็วของเกวียน ท่านว่าเท่ากับความเร็วแห่งอาการเดินของควายและวัวแล

     ถ้าจะสืบที่มาของเกวียน กล่าวกันว่า มนุษย์รู้จักใช้เกวียนเทียมสัตว์มาแต่ดึกดำบรรพ์ทีเดียว แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเริ่มมีขึ้นในสมัยไหนก่อน หลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า ในสมัยกรีกและโรมันมีรถเทียมม้าใช้แล้ว บางทีรถชนิดนี้ใช้ในการสงครามด้วย เรียกว่ารถศึก สำหรับในทางเอเชีย รู้จักใช้วัวมาแต่ก่อนพุทธกาล แม้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองก็ยังได้ทรงใช้รูปล้อเป็นสัญญลักษณ์ของพระธรรมจักรกัปปวัตนสูตร หนังสือที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาก็ได้กล่าวถึงการใช้เกวียนกันอยู่ เช่นเรื่องกองทัพธรรมกล่าวว่า พระเอกเป็นลูกชายนายกองเกวียน เรื่องกามนิต พระเอกคือกามนิตโดยสารไปในขบวนเกวียนของพ่อค้าก่อนที่จะผจญกับกองโจร เป็นต้น หนังสือเรื่องสามก๊ก ขงเบ้งยังได้ประดิษฐ์โคยนตร์ขึ้นใช้แทนวัวควาย และได้นั่งเกวียนออกตรวจค่าย เมื่อตอนรบกับสุมาอี้

     สำหรับในเมืองไทยเรา ไม่ปรากฏแน่ชัดว่า เกวียนเริ่มใช้กันมาแต่เมื่อไร ทราบจากหนังสือที่กล่าวถึงเหตุการณ์สมัยเก่า ๆ อ้างแต่ว่าได้ใช้เกวียนกันแล้ว เช่น หนังสือพงศาวดารเหนือกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนตั้งกรุงสุโขทัยอันถือว่าตอนนั้นเป็นยุคต้นของไทยสมัยปัจจุบัน ไว้ในเรื่องพระร่วงเมืองสุโขทัยว่า นักคุ้มคุมเกวียน ๕๐ เล่มกับไพร่พันหนึ่งมาทวงส่วยน้ำเมืองละโว้ และเมื่อได้มาคำนึงถึง “ถนนพระร่วง”อันเป็นถนนที่สร้างในยุคต้นกรุงสุโขทัย เชื่อมการคมนาคมระหว่างเมืองกำแพงเพชร์ (ชากังราว) กับกรุงสุโขทัย และต่อจากสุโขทัยไปยังเมืองสวรรคโลก (ศรีสัชนาลัย) อันนับว่า เป็นถนนสายแรกที่มีขึ้นในเมืองไทยด้วยแล้ว ความจริงเรื่องการใช้เกวียนในยุคกรุงสุโขทัยจึงเป็นเรื่องที่เห็นเด่นชัดขึ้น

     การใช้เกวียนในสมัยโบราณนั้นแพร่หลายมาก เกวียนเป็นพาหนะใช้ขนส่งได้ทุกชนิด เช่นใช้ลำเลียงข้าว บรรทุกคนโดยสารเมื่อต้องการอพยพหรือย้ายถิ่น ในสมัยหลัง ๆ เคยมีปรากฏว่า สมุหเทศาภิบาลใช้ “เกวียนด่วน” เดินทางจากเมืองอุบลฯ เข้ามาประชุมที่กรุงเทพฯ โดยใช้วิธีนั่งเกวียนมาเป็นทอด ๆ คือมีเกวียนคอยสับเปลี่ยนมาเป็นระยะจนถึงกรุงเทพฯ ประโยชน์สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ข้าราชการฝ่ายปกครอง เป็นต้นว่านายอำเภอหรือเจ้าเมือง เวลาออกตรวจราชการก็ได้ใช้เกวียนนี่แหละเป็นพาหนะสำคัญ เกวียนตรวจราชการนี้มีที่สำหรับเขียนหนังสือ ที่นอนเสร็จ เวลาหยุดพักไม่ต้องไปขอพักกับบ้านราษฎรให้เป็นที่เดือดร้อนหรือเป็นภาระกังวล ใต้ถุนเกวียนก็ใช้เป็นที่หุงหาต้มแกงได้ ฝนตกแดดออกก็ไม่ต้องกลัว เพราะเกวียนประเภทนี้มีเก๋งหรืออย่างเลวก็มีหลังคาไว้พร้อม ในสมัยโบราณ ถ้าจะพูดถึงประโยชน์ของเกวียนกันแล้ว พูดไม่รู้จักจบจักสิ้นเอาเป็นอันว่า เกวียนได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่บรรพบุรุษของเราไว้มากก็แล้วกัน

ที่มา : https://goo.gl/Hff1qc